วันพฤหัสบดีที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การเรียนพยาบาลทหาร


การเรียนพยาบาลทหาร



ต้องฝึกทั้งวิชาทหารและเรียนไปด้วยนะ คนที่จะมาเรียนต้องมีความมุ่งมั่นและตั้งใจอย่างแน่วแน่ เพราะว่าเมื่อเข้ามาแล้วทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตจะถูกตีกรอบทันที จะมีระบบทหารเข้ามาในชีวิตเราตลอดเวลา ทั้งการกิน การอยู่ การใช้ชีวิต แต่ที่บอกนี่ไม่ใช่ว่าจะให้กลัวกันนะถ้าคิดให้ดีๆแล้วอ่ะ ถ้าราอดทนไปได้และมุ่งมั่นตั้งใจกับการฝึก+การเรียนแล้วเราก็จะมีผลตอบแทนที่น่าภูมิใจมากกว่าการเรียนพยาบาลที่อื่นๆอย่างแน่นอน และจะได้ประสบการณ์อันล้ำค่าที่น้อยคนนักจะได้รับมัน  ส่วนเรื่องการเรียน ในปีที่ 1 ก็จะได้เรียนพวกวิทยาศาสตร์ทั่วๆไป ฟิสิกส์ เคมี กายวิภาคศาสตร์พื้นฐาน ปรัชญา จิตวิทยา คณิตศาสตร์ ภาษาไทย วิชาทหารก็จะได้เรียนด้วย เออ แล้วก็การพักอยู่อาศัยก็ต้องอยู่หอพักที่วิทยาลัยกำหนดเท่านั้นนะ จะได้กลับบ้านก็เสาร์-อาทิตย์หรือไม่ก็วันหยุดราชการเท่านั้นนะ จะมาออกไปนอกหอพักมั่วๆก็ไม่ได้นะต้องเซ็นอนุญาติก่อนนะ แต่ถ้ามาคิดดูแล้วมันก็ปลอดภัยสำหรับตัวเรานะ ส่วนเรื่องเครื่องแบบ ก็มีเครื่องแบบสวยๆแบบทหารให้ใส่แต่ไม่ใช่ว่าเข้ามาแล้วจะได้ใส่เลยนะ แล้วแต่ว่าแต่ละเหล่าเขาจะกำหนดว่าให้ใส่ได้เมื่อไร ของแบบนี้มันต้องใช้เวลานะ ส่วนรื่องการติดยศนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าเราได้รับทุนของกองทัพที่เราสังกัดอยู่หรือไม่ ถ้าได้ทุนก็จะได้ติดยศเป็นนายทหารสัญญาบัตรยศเรือตรี และมีข้อผูกพันกับทางกองทัพ ส่วนทุนส่วนตัว(ออกตังค์เอง) ก็ไม่มีข้อผูกมัดกับทางกองทัพ สามารถออกไปทำงานเอกชนได้ และไม่ได้ยศ มันจะมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันอยู่นะ ทุนกองทัพ-จะได้เป็นข้าราชการ เมื่อนานๆไปๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆก็จะมีเงินบำนานให้ก็คือเราก็จะมีความมั่นคงในตอนที่เราอายุมากขึ้นแต่เงินเดือนมันก็อาจจะไม่มากนักเมื่อเทียกับเอกชน ทุนส่วนตัว-ไม่ได้เป็นข้าราชการแต่ว่าเงินเดือนเอกชนก็จะสูงกว่าเงินเดืนข้าราชการ สามารถรับจ็อบอื่นได้ แตถ้าเมื่อได้เงินเดือนแล้วไม่รู้จักเก็บไว้บ้างมันก็จะแย่เมื่อเราอายุมากขึ้น แต่ถ้ารู้จักเก็บมันก็จะสบายยยยยยยยยยยยยยยยยย ก็ต้องคิดเอาแล้วกันนะ แต่ถึงยังงัยไม่ว่าเราจะได้ทุนหรือไม่ก็ตามเมื่อเราเรียนพยาบาลแล้วนะรับรองได้ว่าไม่ตกงานแน่นอน ตามสถิติแล้วนะในปี 2020 พยาบาลทั่วโลกจะขาดแคลนถึง 800,000 ตำแหน่ง เพราะฉะนั้นใครที่อยากเรียนพยาบาลก็คิดไม่ผิดแน่นอน เพียงแต่การเรียนพยาบาลทหารอาจะต้องรอบคอบในการตัดสินใจด้วยเพราะมันต้องปรับตัวอีกมาก ถ้าเราปรับตัวไม่ได้มันก็จะส่งผลถึงการเรียนของเราด้วยแต่ก็สู้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆนะ จะเป็นกำลังใจให้ทุกๆๆๆๆๆ


  



วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ

นักเรียนพยาบาลทหารเรือ


วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ
ให้การศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต (ระดับปริญญาตรี ระยะเวลาศึกษา ๔ ปี)










สิทธิที่ได้รับ
ระหว่างการศึกษาได้รับเครื่องแบบนักเรียนพยาบาลศาสตร์ ตามที่กองทัพเรือกำหนด เมื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรจะได้รับพระราชทานปริญญาบัตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต (พย.บ.) จากมหาวิทยาลัยมหิดล
การรับสมัครและสอบคัดเลือกนักเรียนพยาบาลทหารเรือ
จำหน่ายระเบียบการรับสมัครเดือนธันวาคมของทุกปีทางอินเตอร์เน็ต โดยผู้สมัครจะต้องแสดงหลักฐานคะแนนวิชาการกลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ และจะต้องทดสอบสุข ภาพจิต สอบสัมภาษณ์และตรวจสุขภาพ

คุณสมบัติที่สำคัญของผู้สมัคร
๑. สำเร็จการศึกษาหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์) หรือหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการ (ม.๖)
๒. เป็นสตรีโสด อายุ ๑๗-๒๐ ปี โดยบิดามารดาและผู้สมัครต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด
๓. มีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า ๑๕๕ เซนติเมตร น้ำหนักตัวไม่น้อยกว่า ๔๒ กิโลกรัม และไม่เกิน ๖๕ กิโลกรัม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วิทยาลัยพยาบาลทหารเรือ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ
ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ๑๐๖๐๐
โทร. ๐ ๒๔๗๕ ๒๖๑๔, ๐ ๒๔๗๕ ๒๖๒๕
หรือ www.navy.mi.th/nnc

วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ


วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ กรมแพทย์ทหารอากาศ 







วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ กรมแพทย์ทหารอากาศ ทำการเปิดรับนักเรียนพยาบาลทหารอากาศเป็นประจำทุกปี เริ่มต้นเดือนมกราคม โดยมีทุนการศึกษามอบให้ด้วย

คุณสมบัติของผู้สมัคร
1.สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ – คณิตศาสตร์ตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการ หรืออยู่ในระหว่างรอผลการศึกษาในหลักสูตรดังกล่าว โดยต้องศึกษารายวิชาครบตามเกณฑ์ที่กำหนด
2.เป็นสตรีโสดอายุระหว่าง 17 – 22 ปี
3.มีสัญชาติไทย บิดามารดามีสัญชาติไทยโดยกำเนิด เว้นแต่ถ้าบิดาเป็นนายทหารสัญญาบัตร หรือนายทหารประทวน ซึ่งมีสัญชาติไทย โดยกำเนิดอยู่แล้วมารดาจะไม่มีสัญชาติไทย โดยกำเนิดก็ได้
4.มีสุขภาพสมบูรณ์ รูปร่างลักษณะท่าทางและขนาดของร่างกายเหมาะสมต่อการให้บริการ น้ำหนักตัวไม่น้อยกว่า 40 กก. แต่ไม่เกิน 65 กก. ส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 155 ซม.
5.มีความประพฤติดี ไม่ผิดกฎหมาย ไม่บกพร่องทางศีลธรรม
6.ไม่เป็นโรคที่กำหนดไว้ตามกฎหมายว่าด้วยการรับราชการทหาร หรือไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน

การคัดเลือกเข้าเป็นนักเรียนพยาบาลทหารอากาศ
1.คะแนนวิชาการ คิดจากคะแนนรวม GPAX, (5 เทอม) O-NET (รหัส 01-06) GAT,PAT (P2) กลุ่มสาขาวิชาวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้จะต้องมีคะแนน O-NET ภาษาอังกฤษ (รหัส 03) ไม่ต่ำกว่า 30 คะแนน
2.ผู้ทีผ่านการคัดเลือกคะแนนวิชาการจะได้รับการตรวจร่างกาย การสอบสัมภาษณ์ และทดสอบพิเศษ

การรับสมัคร
ช่วงต้นเดือน มกราคม ถึงปลายเดือน มีนาคม

สิทธิที่ได้รับระหว่างการศึกษา และเมื่อสำเร็จการศึกษา
- นักเรียนทุนกองทัพอากาศ
1.ศึกษาโดยไม่ต้องเสียค่าหน่วยกิต ตลอดหลักสูตร
2.ได้รับเบี้ยเลี้ยงและเงินเดือนดังนี้ เบี้ยเลี้ยงวันละ 106 บาท ทุกชั้นปี และเงินเดือน ชั้นปีที่หนึ่ง 2,920 บาท ชั้นปีที่สอง 3,110 บาท ชั้นปีที่สาม 3,300 บาท ชั้นปีที่สี่ 3,490 บาท
3.เครื่องแต่งกาย ที่พัก การรักษาพยาบาลและสิทธิอื่น ๆ ตามที่ทางราชการกำหนด
4.มีสิทธิได้รับการพิจารณาขอรับทุนการศึกษาจากองค์กร กองทุนให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา และมูลนิธิต่างๆ
5.เมื่อสำเร็จการศึกษาจะได้รับพระราชทานยศเป็น นายทหารสัญญาบัตร ยศเรืออากาศตรี และบรรจุเข้ารับราชการในกองทัพอากาศตามข้อผูกพันและสัญญาที่ทำไว้กับกองทัพอากาศ
- นักเรียนทุนส่วนตัว
1.ได้รับสวัสดิการตามที่วิทยาลัยกำหนด
2.มีสิทธิได้รับการพิจารณาขอรับทุนการศึกษาจากองค์กร กองทุนให้กู้ยืมเงินเพื่อการศึกษา และมูลนิธิต่างๆ
3.ได้รับการตรวจสอบภาพร่างกายประจำปี
4.เมื่อสำเร็จการศึกษาไม่มีข้อผู้พันกองกองทัพอากาศ
เว็บไซต์วิทยาลัยพยาบาลทหารอากาศ >> http://www.nc.rtaf.mi.th

วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก









วิทยาลัยพยาบาลกองทัพบก



การรับสมัครบุคคลเข้าศึกษาวิทยาลัยพยาบาลกองทัพบกเปิดรับบุคคลพลเรือนเข้าศึกษาหลักสูตรพยาบาลศาสตรบัณฑิต ( 4 ปี) จำนวน 80 คน 

โดยจำแนกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
1. ประเภททุนกองทัพบก รับจำนวน 20 คน ( รับเฉพาะเพศหญิง )
2. ประเภททุนส่วนตัว รับจำนวน 60 คน รับทั้งเพศหญิงและเพศชาย (สำหรับเพศชายไม่เกิน 10 คน)

 

คุณสมบัติของผู้สมัคร

1. เป็นผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลาย(วิทยาศาสตร์- คณิตศาสตร์)ของกระทรวงศึกษาธิการ
2. มีผลการทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ ของกระทรวงศึกษาธิการ คือ
   1)ผลการทดสอบทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ( O – NET ) หรือ ผลการทดสอบวิชาสามัญ 7 วิชาของสำนักทดสอบทางการศึกษา(สทศ.) ในปีที่สมัคร โดยมีคะแนนวิชาคณิตศาสตร์,ภาษาอังกฤษและวิทยาศาสตร์ ไม่ต่ำกว่าวิชาละ 30 คะแนน
   2)ผลการทดสอบความถนัดทั่วไป ( GAT1,2 )
   3)ผลการสอบความถนัดทางวิชาการและวิชาชีพ(PAT) ใช้PAT 2 วัดศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ 6
3. มีสถานภาพโสด อายุครบ 18 ปีบริบูรณ์และไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์นับถึงวันเปิดการศึกษาของปีที่สมัคร
4. ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย และบิดา – มารดา ผู้ให้กำเนิดต้องมีสัญชาติไทยโดยกำเนิด แต่ถ้าบิดาหรือมารดาเป็นนายทหารสัญญาบัตร มารดาหรือบิดาจะไม่ใช่ผู้ที่มีสัญชาติไทยโดยกำเนิดก็ได้
5. มีร่างกายและจิตใจสมบูรณ์มีน้ำหนักตัวไม่น้อยกว่า 45 กิโลกรัม มีส่วนสูงไม่ต่ำกว่า 155 เซนติเมตร และไม่เป็นโรคหรือมีความพิการตามที่กำหนดไว้ใน ผนวก ก ท้ายระเบียบนี้
6. ไม่บกพร่องในศีลธรรม ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
7. ไม่มีหนี้สินล้นพ้นตัวตามกฎหมาย
8. ไม่อยู่ในระหว่างเป็นผู้ต้องหาหรือเป็นจำเลยในคดีอาญา และไม่เคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก เว้นแต่ความผิดในลักษณะละหุโทษ หรือความผิดอันกระทำโดยประมาท
9. ไม่อยู่ในระหว่างพักราชการ
10 ไม่เคยถูกปลดออกหรือถูกไล่ออกจากราชการ หรือสถานศึกษาเพราะมีความผิด
11. ได้รับอนุญาตจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองที่ถูกต้องตามกฎหมาย
12. ผู้สมัครประเภททุนส่วนตัว สำหรับบุตรข้าราชการกองทัพบก และบุคคลพลเรือนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต้องมีผลคะแนนตามข้อ 2 และสำเนาบัตรประจำตัวข้าราชการทหารหนังสือรับรองการรับราชการที่ออกโดยหน่วยงานต้นสังกัดของบิดาหรือมารดา และสูติบัตรของผู้สมัครหรือหนังสือรับรองบุตร
13. ผู้สมัครประเภททุนส่วนตัว สำหรับบุคคลพลเรือนที่มีภูมิลำเนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องมีผลคะแนนตามข้อ 2 และผู้สมัครต้องมีรายชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1 ปี